ไส้กรองอากาศ รถยนต์
ไส้กรองอากาศ (รถยนต์) หากใช้งานไปนานๆ จะมีสิ่งสกปรกติดเกรอะกรังอยู่ข้างใน เมื่อเริ่มเยอะขึ้นจะกลายเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังลดลง และวิธีแก้ปัญหาที่ใครหลายคนทำ คือ ใช้ลมเป่าฝุ่นออก ไม่ยอมเปลี่ยนใหม่
ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้ลมเป่าออก แทนการเสียตังค์ซื้อไส้กรองอากาศใหม่ เป็นวิธีที่ควรทำจริงหรือ วันนี้ หมีหมี มีคำตอบครับ
ไส้กรองอากาศรถยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ดักฝุ่นในอากาศไม่ให้เข้าสู่เครื่องยนต์ แต่ถ้าใช้งานไปนานๆ ไส้กรองอากาศเริ่มหมดสภาพ ฝุ่นที่ถูกดักไว้อาจทำให้ไส้กรองอากาศอุดตัน ซึ่งเมื่อไส้กรองอากาศหมดสภาพจะมีอาการดังนี้
1. เครื่องยนต์กำลังลดลง
2. เครื่องยนต์มีอาการสั่น
3. ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเปลืองมากกว่าปกติ
4. ควันไอเสียมีสีดำเข้ม
เมื่อรถมีอาการข้างต้น หลายๆ คนไม่อยากเสียตังค์เพื่อเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ จึงใช้วิธีถอดไส้กรองอากาศออกมา แล้วใช้ลมเป่าสิ่งสกปรกออก
ซึ่งไส้กรองที่นิยมใช้งาน มี 2 ชนิด คือ แบบเปียก และ แบบแห้ง ถ้าเป็นไส้กรองแบบเปียกจะถอดออกมาล้างและเปลี่ยนน้ำมันให้เกิดการหล่อลื่น ส่วนพวกไส้กรองอากาศแบบแห้ง จะใช้วิธีนำมาเป่าไดความร้อนทำความสะอาดได้โดยเป่าจากภายในออกสู่ภายนอก
แต่วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะกรณีไส้กรองไม่สกปรกมากเท่านั้น ถ้าไส้กรองสกปรกขั้นสุด พี่หมีแนะนำให้เปลี่ยนใหม่จะดีกว่า เพราะใช้ลมเป่าฝุ่นออกไม่หมดแน่ แถมเป่าแรงไปอาจทำให้ไส้กรองพังอีกด้วย
ทั้งนี้หากไม่มีอาการบ่งบอก ให้ถอดออกมาดูเมื่อครบอายุการใช้งาน ซึ่งไส้กรองอากาศจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 10,000 กม. โดยประมาณ แล้วทำการเปลี่ยนไส้กรองอากาศทันทีที่ฝุ่นเกาะเกรอะกรัง และนอกจากจะดูแลรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอแล้ว อย่าลืมมองหา “ประกันภัยรถยนต์” คู่ใจไว้คุ้มครองรถของคุณยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จะได้มีประกันคอยดูแลนะครับผม
สนใจเช็คเบี้ยประกันพร้อมรับของรางวัลมากมายได้ที่ www.tqm.co.th หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร Hotline 1737 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ^^