โรคพยาธิตืดหมู
โรคพยาธิตืดหมู อาจไม่ค่อยมีเคสผู้ป่วยให้เห็น แต่ใครจะรู้ถึงว่ามันอันตรายถึงชีวิต! ซึ่งล่าสุด มีภาพฟิล์มเอกซเรย์ผู้ป่วยชวนขนลุก จากเฟซบุ๊ก Kwang Volemage พบว่า มีพยาธิตืดหมูจำนวนมาก แทรกอยู่ในชั้นผิวหนังของเธอ เต็มไปทั่วทั้งขา จึงกลายเป็นเรื่องสยองที่วันนี้ หมีหมี จะพาไปทำความรู้จักกับ โรคพยาธิตืดหมู ว่าเกิดจากอะไร และจะมีป้องกันอย่างไร มาดูกัน
โรคพยาธิตืดหมู (Pork tapeworm) คือ เกิดจากพยาธิตัวแบนที่มีอวัยวะเพศผู้และเมียอยู่ในปล้องเดียวกัน โดย พยาธิตืดหมู แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
1. โรคพยาธิตืดหมูที่อาศัยอยู่ในลำไส้
2. โรคที่มีพยาธิตัวอ่อนในถุงน้ำ หรือซีสต์เม็ดสาคู อยู่ในระยะที่พยาธิกลายเป็นซีสต์และฝังตัวอยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกาย
อาการของโรค
ถ้าพยาธิตืดหมูอยู่ในลำไส้ จะทำให้มีอาการ หิวบ่อย กินเก่ง แต่น้ำหนักลด เพราะ ตัวพยาธิในลำไส้จะแย่งอาหารกัน ทำให้ระคายเคืองต่อลำไส้ และอาจมีอาการ ปวดท้อง ท้องอืด อุจจาระบ่อย คลื่นไส้ และอาเจียน
แต่หากพยาธิตัวอ่อนไชทะลุลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดหรือน้ำเหลือง ไปยังกล้ามเนื้อหรืออวัยวะต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อ สมอง ไขสันหลัง ตา หัวใจ ตับ ปอด ตัวพยาธิก็จะเจริญไปเป็นระยะถุงซีสต์ และมีอาการต่างๆ เช่น มีก้อนใต้ผิวหนัง ปวดตา ตาพร่ามัว ขึ้นอยู่กับว่า ซีสต์จะไปเกิดขึ้นส่วนไหนของร่างกาย ซึ่งถ้าเกิดขึ้นในเนื้อสมอง จะทำให้มีอาการ ชัก มือและเท้าชา เป็นลม วิงเวียน ปวดศีรษะ และอาจเสียชีวิตได้
สาเหตุของโรค
- ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีไข่ของพยาธิ เช่น สตรอเบอรี่ แครอท หัวไชเท้า (ผักผลไม้ที่มีหัวอยู่ในดิน)
- รับประทานอาหารที่มีหมูสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบหมู น้ำตกหมู แหนมดิบ
- ไม่ล้างมือหลังถ่ายหนัก แล้วใช้มือจับอาหารเข้าปาก
การรักษา
ถ้าซีสต์พยาธิตัวตืด กระจายอยู่ตามกล้ามเนื้อในอวัยวะต่างๆ อาจไม่จำเป็นต้องรับการรักษา แต่ถ้าเป็นที่สมองและมีอาการ เช่น ชัก ปวดศีรษะมาก ต้องเข้ารับหารรักษาโดยการทานยายาพราซิควอนเทล หรือผ่าตัดเอาซีสต์ออกจากสมองหรือจากไขสันหลัง
การป้องกัน
- ไม่รับประทานอาหารสุกๆดิบๆ เวลาซื้อเนื้อหมูต้องคอยสังเกตดูให้ดี ถ้าพบลักษณะมีตุ่มขาว ไม่ควรนำมารับประทาน
- ไม่รับประทานหมูที่มีลักษณะเหมือนจะติดเชื้อพยาธิ
- ล้างมือให้สะอาดหลังออกจากห้องน้ำ ก่อนปรุงและรับประทานอาหาร ใช้ช้อนตักอาหารเข้าปาก เลี่ยงการใช้มือ
- ล้างผักและอาหารสดให้สะอาดก่อนนำมารับประทาน
- ดื่มน้ำต้มสุก
- ถ้าต้องเดินทางไปประเทศ ต้องระมัดระวังเรื่องการดื่มน้ำและอาหารเป็นพิเศษ
เห็นแบบนี้แล้ว เราควรใส่ใจในการกินมากขึ้น รับประทานอาหารที่ปรุงสุก ล้างผัก-ผลไม้ให้สะอาด และรักษาสุขอนามัยอยู่เสมอนะครับผม