เบิกจ่ายตรง ด้วย “บัตรประชาชน”
เบิกจ่ายตรง ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยนอกด้วย “บัตรประชาชน” แทนการลงทะเบียนสมัครเข้าจ่ายตรง (สแกนนิ้วแบบเดิมๆ) เริ่ม 4 พฤษภาคม 2561 นี้เป็นต้นไป ณ สถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1,317 แห่งทั่วประเทศ
ทางอธิบดีกรมบัญชีกลาง เผยว่า ระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลถูกพัฒนา ให้ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนมายื่นใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก ณ สถานพยาบาลของทางราชการ และสถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการตามหลักเกณฑ์กลุ่มโรคเฉพาะ ได้แก่ การฟอกไต และรังสีรักษาสำหรับโรคมะเร็ง
แต่สำหรับผู้มีสิทธิที่ยังไม่มีหรือไม่สามารถมีบัตรประจำตัวประชาชนได้ตามกฎหมาย ก็สามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงได้ ดังนี้
1. กรณีเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี
– ให้ใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชนของเด็กที่ปรากฏอยู่ในสูติบัตรหรือทะเบียนบ้าน (ของเด็ก) ยื่นร่วมกับบัตรประชาชนของผู้ดูแลที่พาเด็กไปโรงพยาบาล
2. กรณีคู่สมรส หรือบิดามารดาของผู้มีสิทธิที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่มีเลขประจำตัวคนต่างด้าว 13 หลัก
– ให้ใช้บัตรประจำตัวคนต่างด้าว หรือทะเบียนบ้านได้ แต่ถ้าไม่มีเลขประจำตัวคนต่างด้าว 13 หลัก ให้ใช้รายงานทะเบียนประวัติที่มีเลข 12 หลัก และขึ้นต้นด้วยตัว B โดยขอรับเอกสารได้จากนายทะเบียนต้นสังกัดของผู้มีสิทธิ
3. กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเป็นผู้ป่วยติดเตียงและไม่สามารถมาแสดงตนได้
– ให้ผู้ดูแลนำบัตรของผู้มีสิทธิพร้อมแสดงบัตรประชาชนของผู้ดูแลเพื่อใช้สิทธิ
4. กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวที่เป็นผู้สูงอายุ, มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ที่เข้ารับการรักษาเสร็จแล้ว แต่ไม่สะดวกในการทำธุรกรรมด้วยตนเอง
– สามารถให้ผู้ดูแลนำบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิพร้อมแสดงบัตรประชาชนของผู้ดูแลเพื่อใช้สิทธิ
หรือหากบุคคลในครอบครัวของผู้มีสิทธิไม่สะดวกพกเอกสารดังกล่าว ผู้มีสิทธิสามารถยื่นคำร้องขอทำบัตรสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ กับนายทะเบียนที่หน่วยงานของตนได้
ทั้งนี้ ก่อนไปใช้บริการ ให้ผู้ที่มีสิทธิตรวจสอบสิทธิที่เว็ปไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลให้ถูกต้องและเข้าใช้สิทธิได้ง่ายไม่ติดขัดนะครับ แต่จะดีกว่าไหม ถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่า อย่าง ประกันภัยสุขภาพ ที่ให้คุณเป็นคนป่วยแบบ VIP ไม่ต้องรอเบิกค่ารักษาพยาบาล เพราะจะคอยดูแลและจ่ายค่ารักษาแทนคุณ
ที่มา : www.news.mthai.com