วิธีดูแลรถยนต์หลังน้ำท่วม
ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นเป็นอะไรที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างในตอนนี้หลายจังหวัดในประเทศไทยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสร้างความเสียหายอย่างหนัก ทั้งบ้านเรือน พื้นที่ไร่นา แม้แต่รถยนต์ก็ได้รับความเสียหาย วันนี้ หมีหมี มี “วิธีดูแลรถยนต์หลังน้ำท่วม” มาฝากเพื่อนๆกันครับ
วิธีดูแลรถยนต์หลังน้ำท่วม
น้ำท่วมเพียง 15-30 เซนติเมตร หรือประมาณครึ่งล้อ น้ำไม่เข้ามาในห้องโดยสาร
1.ล้างรถ ควรฉีดล้างทำความสะอาดตัวถังภายนอก ล้างคราบน้ำที่เกาะบริเวณสีของรถ ด้วยน้ำผสมแชมพู ฉีดน้ำล้างออกแล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง
2.เช็คต่ำแหน่งของเกียร์และเฟืองท้าย ส่วนมากจะอยู่ในต่ำแหน่งที่ต่ำจึงมีความเสี่ยงต่อการที่น้ำอาจจะซึมเข้าไปในระบบเกียร์ได้
3.หากรถที่จมน้ำเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้จารบีที่อยู่ในลูกปืนล้อ หลุดออกหรือเหลือเพียงเล็กน้อย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพราะอาจสร้างความเสียหายจนลูกปืนล้อแตกได้
4.รถที่จมน้ำเป็นระยะเวลานานทำให้จานเบรคเป็นสนิม และผ้าเบรคเกิดความชื้นได้ ดังนั้นหากน้ำลดลงแล้วควรขับรถเลียเบรคไปช้าๆสัก 100-200 เมตร โดยการแตะเบรคเบาๆ ค้างไว้ เพื่อไล่ความชื้นของผ้าเบรค
น้ำท่วมที่สูงเกินกว่า 30 เซนติเมตรขึ้นไป หรือเกินครึ่งล้อมีน้ำเข้ามายังห้องโดยสาร
1.ห้ามสตาร์ทรถอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้ระบบไฟเกิดการช๊อตและกว่าจะหาต้นต่อว่าช๊อตตรงไหนก็เสียเวลาไม่น้อยแน่ ๆ
2.ปลดขั้วแบตเตอรี่ เพื่อเป็นการป้องกันกระแสไฟฟ้าเข้าไปเลี้ยงระบบต่างๆ ภายในตัวรถ
3.เบาะนั่งและพรม วิธีคือเริ่มจากการถอดเบาะนั่ง และพรมออกมาซักแล้วจึงนำไปตากแดดให้แห้งสนิททันที
4.ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค และน้ำมันเพาเวอร์ ว่าสีของน้ำมันเหล่านี้เปลี่ยนไปหรือเปล่า เพราะน้ำอาจไหลซึมเข้าไปได้
5.ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง ควรนำโคมไฟออกมาเอาน้ำออกและเป่าแห้งทันที
6.ทำความสะอาดรังผึ้งของหม้อน้ำ เอาสิ่งสกปรกและคราบโคลนออกให้หมดเพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ถ้าเช็คทั้งหมดแล้ว ยังไม่ค่อยมั่นใจ พี่หมีแนะนำว่าให้ส่งเข้าศูนย์ฯ เพื่อความสบายใจ และทางที่ดีควรมีประกันไว้ช่วยดูแลผ่อนหนักให้เป็นเบาอย่าง “ประกันรถยนต์ชั้น 1” ถึงน้ำจะท่วมรถคุณหนักแค่ไหน ก็คุ้มครอง สนใจคลิกเลย ประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือโทรปรึกษาพี่หมีที่ 1737 ตลอด 24 ชั่วโมงครับ