วิธีพ่วงแบตเตอรี่ให้ถูกต้อง
ทำไมเราต้องรู้วิธีพ่วงแบตเตอรี่ ?
นั่นก็เพราะปัญหารถสตาร์ทไม่ติด เป็นอาการที่ไม่มีสัญญาณเตือน การมีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่จะพกไว้อย่างเดียวคงไม่ได้ประโยชน์อะไร ต้องศึกษาวิธีพ่วงแบตเตอรี่ที่ถูกต้องและปลอดภัยเอาไว้ด้วย ถ้าเราตัวคนเดียวต้องเดินทางไกลหรือห่างจากศูนย์บริการ แล้วรถดับกลางทาง คุณจะสามารถสวมรอยเป็นช่างรถ เพียงแค่ขอความช่วยเหลือจากรถคันอื่นแล้วทำการพ่วงแบตเตอรี่แบบมืออาชีพ รถของคุณก็สามารถขับต่อไปได้ ซึ่งวิธีพ่วงแบตเตอรี่ก็ง่ายนิดเดียว เพียงปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้ครับ…
วิธีพ่วงแบตเตอรี่ เมื่อรถสตาร์ไม่ติด
A : รถที่แบตเตอรี่หมด B : รถที่มาช่วย
1. ปิดการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด (ทั้ง 2 คันเลยนะครับ)
2. นำรถที่มาช่วย (B) จอดใกล้ๆ หรือจอดไว้ข้างหน้ารถที่แบตเตอรี่หมด (A) โดยหันหน้ารถทั้ง 2 คัน มาเจอกัน เพื่อสะดวกในการต่อสายพ่วง
3. ดูสีสายพ่วง *
– สายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วบวก (สีแดง) ใช้หนีบกับขั้วบวกแบตเตอรี่ (ฝาปิดขั้วสีแดง) ของรถที่แบตเตอรี่หมด (A) ก่อน แล้วค่อยนำสายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วบวก (สีแดง) อีกข้าง หนีบกับขั้วบวกของรถคันที่มาช่วย (B)
– สายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วลบ (สีดำหรือสีเหลือง) ใช้หนีบกับขั้วลบแบตเตอรี่ ของรถที่มาช่วย (B) ส่วนสายพ่วงขั้วลบอีกข้างหนีบกับเหล็กส่วนไหนก็ได้ที่ไม่ทำสีของรถที่แบตเตอรี่หมด (A)
4. สตาร์ทเครื่องยนต์ของรถที่มาช่วย (B) ทิ้งไว้สัก 3 นาที แล้วเร่งเครื่องยนต์นิดหน่อยให้แบตเตอรี่ทำงาน
5. จากนั้นก็สตาร์ทเครื่องยนต์ของรถที่แบตเตอรี่หมด เร่งเครื่องเพื่อทดสอบนิดหน่อย เท่านี้รถก็สามารถขับต่อได้อีกสักระยะหนึ่ง แต่อย่าลืม ถอดสายพ่วงเก็บให้เรียบร้อย และรีบนำรถเข้าศูนย์เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่นะครับผม
ส่วนการเปลี่ยนแบตเตอรี่ก็ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องหมายรับรองจาก มอก. และมีขนาดเหมาะสมกับรถของคุณนะครับ นอกจากจะใส่ใจในการเลือกแบตเตอรี่ที่ดีมีคุณภาพแล้ว ก็อย่าลืมศึกษาวิธีการเลือกน้ำมันเครื่องที่ถูกต้องและเพิ่มความอุ่นใจด้วยประกันภัย ที่จะคุ้มครองในทุกระยะการเดินทาง สนใจปรึกษาพี่หมีได้ที่ Hotline 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ คลิก www.tqm.co.th