ต่อใบขับขี่ 2561
ต่อใบขับขี่ ต้องใช้อะไรบ้าง ทั้งแบบชั่วคราว 2 ปี และ 5 ปี จะมีขั้นตอนยื่นเอกสารอย่างไร ยื่นที่ไหน ค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ วันนี้ หมีหมี มีคำตอบครับ
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวจากทางกรมขนส่งฯ ประกาศว่าหากไม่พกใบขับขี่-บัตรหมดอายุจะมีโทษปรับ แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ ซึ่งหมีหมีเชื่อว่า ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์หลายๆ คนหยิบใบขับขี่ในกระเป๋าขึ้นมาดูว่า หมดอายุไปหรือยัง หมดอายุเมื่อไหร่ และถ้าหากใกล้หมดอายุแล้ว ต้องทำเช่นไร ทำที่ไหน มาดูกัน
สำหรับการต่อใบขับขี่ ชนิดชั่วคราว (2ปี) เป็น 5 ปี
เอกสารที่ต้องใช้
– ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 1 เดือน)
– ใบอนุญาตขับรถยนต์ หรือใบขับขี่ตัวเดิม
– บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา
ขั้นตอนการยื่นเอกสาร
1. ก่อนอื่นให้ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอที่ช่องงานใบอนุญาตขับรถเพื่อความละเอียดครบถ้วนของเอกสาร
2. จากนั้นยื่นเอกสารเพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกาย 4 อย่าง คือ ทดสอบการมองเห็นสี ปฎิกิริยาเท้า สายตาลึกและกว้าง
3. ชำระค่าธรรมเนียม และถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
4. รับใบขับขี่ เป็นอันเสร็จ
สำหรับการต่อใบขับขี่ ชนิด 5 ปี เป็นชนิด 5 ปี
เอกสารที่ต้องใช้
– ใบอนุญาตขับรถยนต์ หรือใบขับขี่ตัวเดิม
– บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา
ขั้นตอนการยื่นเอกสาร
1. ก่อนอื่นให้ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอที่ช่องงานใบอนุญาตขับรถเพื่อความละเอียดครบถ้วนของเอกสาร
2. จากนั้นยื่นเอกสารเพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกาย 4 อย่าง คือ ทดสอบการมองเห็นสี ปฎิกิริยาเท้า สายตาลึกและกว้าง
3. ฟังอบรม 1 ชั่วโมง
4. ชำระค่าธรรมเนียม และถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
5. รับใบขับขี่ เป็นอันเสร็จ
ยื่นเอกสารได้ที่ไหน
สามารถไปต่อใบขับขี่ได้ที่ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ
ค่าธรรมเนียมเท่าไหร่
การต่อใบขับขี่ทั้งแบบชนิดชั่วคราวเป็น 5 ปีและชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 505 บาท แบ่งเป็น ค่าคำขอ 5 บาท และค่าใบขับขี่อนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล 500 บาท ทั้งนี้เฉพาะกรณีรถเก๋งและรถกระบะส่วนบุคคลนะครับ
เพิ่มเติม
การต่อใบขับขี่จากชนิดชั่วคราว เป็นชนิด 5 ปี
– สามารถต่ออายุได้ล่วงหน้า 60 วัน
– หากเกิน 1 ปี เพิ่มขั้นตอนทดสอบข้อเขียนด้วยระบบ E-exam 50 ข้อ
– แต่ถ้าเกิน 3 ปี ต้องเพิ่มขั้นตอนการอบรม ทดสอบข้อเขียน และสอบขับรถ เหมือนเริ่มสอบใหม่ทั้งหมด
ส่วน การต่อใบขับขี่ชนิดต่ออายุ 5 ปี เป็น 5 ปี
– สามารถต่ออายุได้ล่วงหน้า 90 วัน
– หากเกิน 1 ปี เพิ่มขั้นตอนทดสอบข้อเขียนด้วยระบบ E-exam 50 ข้อ
– แต่ถ้าเกิน 3 ปี ต้องเพิ่มขั้นตอนการชั่วโมงอบรมเป็น 2 ชั่วโมง สอบข้อเขียนด้วยระบบ E-exam 50 ข้อ สอบขับรถ และยื่นใบรับรองแพทย์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรอให้ใบขับขี่หมดอายุนานนะครับ เพราะนอกจากจะโดนโทษปรับแล้ว ยังโดนเพิ่มขั้นตอนการต่อใบขับขี่ ทำคุณเสียเวลา ประกันภัยรถยนต์ก็เช่นกัน อย่าปล่อยให้ประกันขาด เพราะอุบัติเหตุมักมาแบบที่คุณไม่ทันตั้งตัว ทำประกันกับ TQM สิครับ มีบริการแจ้งเตือนหมดอายุประกัน ให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องประกันหมด สนใจแชทกับพี่หมีได้ที่ www.tqm.co.th หรือโทร Hotline 1737 บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อมูลจาก www.dlt.go.th